53ปีที่รอคอย ถึงแม้จำต้องกลายเป็นข้างตามหลังตั้งแต่ 2 นาทีแรกแต่ว่านายทัพ “อัซซูร์รี่” กลับสู่เกมได้โดยตลอดอีกทั้ง 120 นาที

53ปีที่รอคอย ถึงแม้จำต้องกลายเป็นข้างตามหลังตั้งแต่ 2 นาทีแรกแต่ว่านายทัพ “อัซซูร์รี่” กลับสู่เกมได้โดยตลอดอีกทั้ง 120 นาทีเป็นฝ่ายทำเป็นดีมากยิ่งกว่า อังกฤษ แน่ชัดท้ายที่สุดเท่ากันไป 1-1 จำต้องดวลเป้าหาผู้ชนะ

รวมทั้งเป็น อิตาลี ทำเป็นดีมากยิ่งกว่าเฉือน “สิงโตคำราม” (3-2) สิ้นสุดการคอย 53 ปีผงาดซิวแชมป์ยูโรสมัยที่ 2 สำเร็จรวมทั้งนี่เป็นผลจากการสอบของสมาชิก โรแบร์โต้ มันชินี่ 11 ผู้เล่นตัวจริง

จานลุยจิ ดอนนารุมม่า : 9 แจ้งกำเนิดเต็มกำลังสำหรับนายทวารวัย 22 ตลอดทั้งเกมแทบจะไม่มีจังหวะอันตรายให้จำต้องออกแรงเซฟหากแม้เสียประตูตอนต้นเกมแม้กระนั้นไม่ใช่ความผิดพลาดของเจ้าตัว

(ก่อนมาระเบิดฟอร์มเซฟจุดลูกโทษในช่วงดวลเป้าพาทีมผงาดซิวแชมป์สำเร็จ) โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่ : 7 มีส่วนทำให้ทีมเสียประตูเร็วตามติดพลาดหลุดตำแหน่งปลดปล่อย ลุค ชอว์ สอดมาซัด แม้กระนั้นต่อไปเรียกสมาธิคืนมาได้เร็ว

ตำแหน่งแท็กเกิ้ลหนักแน่นช่วยเกมยอมรับได้ดี เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ : 8.5 กล้าแกร่งคุมเกมยอมรับได้ยอดเยี่ยมมีทีเด็ดจากบอลยาวคอยดูแล ราฮีม สเตอร์ลิง ที่จ้องมองล้มในกรอบจุดโทษนอกนั้นยังซัดประตูตีเสมอปลุกความคาดหมายให้ทีม

(แถมสังหารลูกจุดลูกโทษในตอนดวลเป้าได้สุดใจเย็น) จอร์โจ้ คิเอลลินี่ : 7.5 เด็ดขาดดังเดิมมีปัญหาบ้างเช่นเดียวกันสำหรับเพื่อการจัดการความคล่องตัวของผู้เล่น อังกฤษ แต่ว่าใช้ความเก๋าเข้าสู้โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวะตามสกัด ผลบอลสดภาษาไทย

53ปีที่รอคอย

120 นาทีเป็นฝ่ายทำเป็นดีมากยิ่งกว่า อังกฤษ แน่ชัดท้ายที่สุดเท่ากันไป 1-1 จำต้องดวลเป้าหาผู้ชนะ

53ปีที่รอคอย ราฮีม สเตอร์ลิง ในนาทีที่ 110 เอแมร์ซอน : 6.5 ตอนครึ่งแรกค่อนข้างจะมีปัญหาสำหรับในการติดต่อสื่อสารกับเพื่อนเข้าพบบอลช้าทำให้ คีแรน ทริปเปียร์ ได้โอกาสครอสส่งผลให้เกิดการเสียประตูแรกจากนั้นทำเป็นตามมาตรฐาน

จอร์จินโญ่ : 7.5 แม้วันนี้เจ้าตัวถึงกับหลั่งน้ำตาข้างหลังพลาดจุดลูกโทษในตอนดวลเป้าแม้กระนั้นจำเป็นต้องเห็นด้วยว่าตลอด 120 นาทีเค้าคือแกนหลักสำคัญของทีมชุดนี้อีกทั้งการ ผ่านบอล-ตัดบอล สถิติตลอดทัวร์นาเมนต์จากห้องเครื่องวัย 29 ปี

นับว่าเป็นตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพ นิโคโล่ บาเรลล่า : 5 ขยัน ทุ่มเท แต่ว่าโดยรวมนับว่าน่าผิดหวังแทบจะไม่มีส่วนร่วมกับเกมรุกแบบที่ถนัดโดนบีบให้จำเป็นต้องลงมาต่ำสุดด้านหลังโดนสลับตัวออกตอนต้นช่วงหลัง

มาร์โก แวร์รัตติ : 7 ครอบครองบอลได้ดีเยี่ยมเหมือนปกติแต่ว่าเกือบจะมิได้พาขึ้นมาในพื้นที่อันตรายในตอนครึ่งแรกก่อนมาเร่งเครื่องแถมกระแทกจังหวะสำคัญมีส่วนทำให้ทีมได้ประตูตีเสมอ เฟเดริโก้ เคียซ่า : 8.5

ผู้เล่นเกมรุกที่อันตรายที่สุดของ อิตาลี วูบวาบเด่นใช้ความคล่องตัวทำร้ายแนวรับ อังกฤษ กระทั่งป่วนปั่นโชคร้ายไม่มีสกอร์แถมโดนการบาดเจ็บก่อกวนท้ายที่สุดจะต้องออกมาจากสนามนาทีที่ 86 แม้กระนั้นก็แจ้งกำเนิดได้เต็มกำลังด้วยเหมือนกัน

ลอเรนโซ่ อินซินเย่ : 7 โดนตามเป็นเงาพยายามใช้ความรู้ส่วนตัวทำร้ายแนวรับ “สิงโตคำราม” โดยรวมจัดว่าไม่ถูกฟอร์มแม้กระนั้นยังได้ลุ้นซัดประตูในนาทีที่ 57 โชคไม่ดีติดเซฟ จอร์แดน พิคฟอร์ด ชิโร่ อิมโมบิเล่ : 4

สันโดษอย่างมากในแดนหน้าได้บอลนับครั้งได้ได้โอกาสลุ้นทำคะแนนเพียงแค่ครั้งเดียวแถมติดบล็อคก่อนโดนเปลี่ยนแปลงออกนาทีที่ 54 บวกสถิติเป้าสะอาดเป็น 4 นัด สำรองที่ได้ลงเล่น ไบรอัน คริสตันเต้ : (แทน บาเรลล่า น. 54) 7

ลงมาขยับเชื่อมแดนกลางดูทีเด็ดในจังหวะวางบอล แถมทำให้ มาร์โก แวร์กลางคืน มีอิสระสำหรับในการเล่นขยับเพิ่มเติมเกมสูงขึ้น โดเมนิโก้ เบราร์ดี้ (แทน อิมโมบิเล่ น. 54) : 6.5 เห็นได้ชัดคือความรู้ความเข้าใจการเล่นใส่ผสานก้าวหน้ากับเพื่อนร่วมทีม

แทบเป็นวีรบุรุษทำแต้มสำคัญในนาทีที่ 103 (จังหวะดวลเป้าเลือกหลอกหน้าเท้าซัดเข้ากึ่งกลางประตูสุดเหนือชั้น) เฟเดริโก้ แบร์นาร์เดสคี่ (แทน เคียซ่า น. 86) : 5.5 หากแม้ฟอร์มการเล่น จะยังไกลห่างมาตรฐานของ เฟเดริโก้ เคียซ่า

แม้กระนั้นมีส่วนช่วยสำหรับการไล่บอลให้เพื่อนง่ายก่อน รับหน้าที่สังหารจุดลูกโทษเป็นผู้ที่ 4 เข้าไปไม่พลาด อันเดรีย เบล็อตติ (แทน อินซินเย่ น. 91) : 6 ลงสู่สนามเป็นตัวสำรอง ช่วงทดเวลาเด่น ในเรื่องสภาพร่างกายหนักแน่น

ลงมาเชื่อมเกมช่วยดินแดน กึ่งกลางถึง แม้พลาดจุดลูกโทษ แต่ว่านับว่าโดยรวมพอเพียงยอมรับได้ มานูเอล โลตาเคลลี่ (แทน แวร์รัตติ น. 96) : 6 อีกหนึ่งผู้เล่นที่ได้รับ การจับตาดูในรายการนี้ถึงแม้เกมนี้ ราชากลับมาแล้ว

เวลาในสนามมีออกจะน้อย แต่ว่าลงมาปฏิบัติหน้าที่ ไม่มีบกพร่อง อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ (แทน แวร์รัตติ น. 118) : ไม่อาจจะให้แต้มได้ “สิงโตคำราม” ฝันสลายชวดแชมป์ยูโรสมัยแรกข้างหลัง อิตาลี ชนะจุดลูกโทษซิวแชมป์สมัยที่ 2 ได้สำเร็จ