โหดได้อีก แฟร้งค์ แลมพาร์ด กุนซือเชลซี โวแนวรุกของทีมสามารถทำผลงานได้ดุดันกว่านี้ แม้ปัจจุบันเปิดบ้านอัด เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด

โหดได้อีก แฟร้งค์ แลมพาร์ด ผู้จัดการทีม เชลซีมั่นใจว่า บรรดานักฟุตบอลตัวรุกของกลุ่ม ยังคงจำเป็นต้องทำความเข้าใจซึ่งกันและกันถัดไป เพื่อจะเล่นได้เข้าขากันมากขึ้นเรื่อยๆในอนาคต แม้กลุ่มกำลังอยู่ในตอนทำแต้มได้อย่างมาก ข้างหลังปัจจุบันเปิดรัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ ต้อน เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 4-1 ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ 7 เดือนพฤศจิกายน ก่อนหน้าที่ผ่านมา

หลังจากเสมอ 0-0 สองเกมติด (เจอ เซบีย่า แล้วก็ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) เมื่อตอนกลางเดือนก่อน เชลซีก็เดินหน้าคว้าชัยสี่้เกมรวดรวมทุกรายการ แถมทำแต้มรวมกันถึง 14 ประตู (กระหน่ำ ครั้งสโนดาร์ 4-0, เบิร์นลี่ย์ 3-0, แรนส์ 3-0 แล้วก็ปัจจุบัน เชฟฯ ยูไนเต็ด 4-1) แต่ว่า แลมพาร์ด คิดว่า เกมรุกของกลุ่มยังสามารถทำเป็นดีมากกว่านี้ ผลบอลสดภาษาไทย

“ผู้คนต่างมุ่งหวังว่า บรรดาผู้เล่นตัวรุกของกลุ่มพวกเราจะคลิกกันได้วันหนึ่ง ซึ่งก็แน่ๆว่า ในขณะนี้มันยังไม่เกิดขึ้น มันกำลังอยู่ในตอนปรับปรุง ทั้งยังการเคลื่อนที่รวมทั้งความรู้ความเข้าใจกันในสนาม มันเป็นสิ่งที่คุณจำเป็นต้องปฏิบัติงานกันถัดไป แน่ๆว่า ในตอนนี้มันเริ่มส่งสัญญาณที่ดี แต่ว่าพวกเราต้องปรับปรุงกันถัดไป” ผู้จัดการทีมฟุตบอลเลือดผู้ดีวัย 42 ปี เปิดใจข้างหลังเกม

เกมนี้กลุ่มเยี่ยมทำเซอร์ไพรส์ด้วยการขึ้นนำก่อนตั้งแต่นาทีที่ 9 จาก เดวิด แม็คโกลดริก แต่ว่านาทีที่ 23 เชลซีตามตีเสมอได้ จากการยิงของ แทมมี่ อับราฮัม

โหดได้อีก ตอนช่วงหลังในนาทีที่ 77 “สิงห์บลูส์” หนีเป็น 3-1 จากการกระแทกของ ติอาโก้ ซิลวา ก่อนจะมาได้ประตูจบท้าย 4-1 จากการหลุดเข้าไปยิงอย่างเฉียบขาดของ ติโม แวร์เนอร์ นาทีที่ 80 โดยเกมนี้ ฮาคิม ซิเยค ปีกชาวโมร็อกกัน คว้ารางวัล “แมน ออฟ เดอะ แมตช์” หลังโชว์ฟอร์มได้ดีเยี่ยมด้วยผลงานทำ 2 แอสซิสต์ ซึ่ง แลมพาร์ด ก็ยอมรับว่า ซิเยค เป็นนักฟุตบอลชั้นยอดเยี่ยมของจริง

“เขาเป็นผู้เล่นระดับท็อปคลาส ซึ่งคุณก็อาจจะทราบมาตั้งนานแล้ว แม้กระนั้นเมื่อคุณได้ร่วมงานกับเขาจริงๆคุณจะรู้สึกติดใจเขามากยิ่งกว่าที่คิดแน่ๆ นี่เป็นการเซ็นสัญญาที่สุดยอดของสมาคม เขาเข้ามาช่วยกลุ่มพวกเราได้เยอะมาก รวมทั้งมันก็จะเป็นอย่างนี้ถัดไปเรื่อย” นายใหญ่เชลซี ระบุ

สำหรับชัยชนะนัดนี้ทำให้ เชลซีขึ้นมารั้งชั้นสามในตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก เป็นระเบียบ โดยมี 15 แต้ม จากการลงแข่งขัน 8 นัดหมาย ตามหลัง เซาธ์แฮมป์ตัน กลุ่มผู้นำฝูง เพียงแค่แต้มเดียว

ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนนี้วันเสาร์ที่ 7 พ.ย. ก่อนหน้าที่ผ่านมา เจ้าของบ้าน เชลซี กลุ่มชั้น 8 เปิดรังรับการมาเยี่ยมของ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด กลุ่มบ๊วยของตาราง โหดได้อีก

โดยฟอร์มปัจจุบัน “สิงห์บลูส์” ดีที่สุดมากมายไม่มีแพ้มา 7 เกมติดทุกรายการ แถมไม่เสียประตูมาถึง 5 เกมติดต่อกันแล้ว ฟอร์มปัจจุบันบุกไปถล่ม เบิร์นลี่ย์ ในลีกถึง 3-0 ก่อนที่จะต้อน แรนส์ 3-0 ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในเวลาที่ “ดาบคู่” เชฟฯยูฯผลงานแย่ยังแพ้กลุ่มใดในลีกเลย เกมปัจจุบันพ่ายแพ้คาบ้านให้ แมนฯสิตี้ 0-1

ประเดิมมาเพียงแค่ 4 นาที “สิงห์บลูส์” ได้ลุ้นในทันทีหลัง รีซ เจมส์ ครอสเลียดมาเสาแรกให้ แทมมี่ อบราฮัม ไขว้ยิงบอลเลยไปเสาไกลถึง เบน ชิลเวลล์ วิ่งมาซัดด้วยซ้ายย้ำๆแต่ว่ายังไปติดเซฟของ แอรอน แรมส์เดล

แต่ทว่านาทีที่ 9 เปลี่ยนเป็น “ดาบคู่” โหดได้อีก ที่บุกมาขึ้นนำเจ้าถิ่น 1-0 บอลเล่นสั้นที่มุมธงก่อนที่จะ จอร์จ บัลด็อค จะปาดมากลางประตูให้ ซานเดอร์ เบิร์ก ล้มตัวยิงไปโดนขา เดวิด แม็คโกลดริก เปลี่ยนแปลงปากทางเข้าประตู จำพวกที่ เอดูอาร์ เมนดี้ หมดสิทธิ์ปกป้อง ทำให้สมาชิกของ แลมพาร์ด เสียประตูแรกในรอบ 6 เกมทุกรายการ

เชลซี มีโอกาลุ้นทวงประตูตีเสมอ โอกาสนี้ แทมมี่ อบราฮัม ได้บอลนอกกรอบก่อนที่จะเลี้ยงแปลกรับดาบคู่เข้าไปซัดด้วยขวา แม้กระนั้นบอลยังไม่ห่างตัว แรมส์เดล ที่ล้มตัวรับไว้ได้

“สิงห์บลูส์” มาตีเสมอ 1-1 จนได้ บอลขึ้นทางฝั่งขวา ฮาคิม สิเย็ค ตักบอลขึ้นไปให้ มาเตโอ โควาซิช ก่อนที่ห้องเครื่องชาวโครแอตจะตวัดเข้ากึ่งกลางมาให้ แทมมี่ อบราฮัม วอลเลย์ด้วยขวาแบบไม่เต็มเท้าแต่ว่าบอลกระดอนตกพื้นหนีมือ แอรอนแรมส์เดล ทิ่มมุมเข้าไป

ชลซี พลาดโอกาสแซงขึ้นนำ หลัง ฮาคิม ซิเย็ค ปั่นฟรีคิกด้วยซ้ายมาเสาไกล บอลโค้งแทบทิ่มเสาแม้กระนั้นโดน แอรอน แรมส์เดล พุ่งปัด บอลไปเข้าทาง ติโม แวร์เนอร์ ตามมาซ้ำแม้กระนั้นไปชนคานอย่างโชคร้าย

“สิงห์บลูส์” โหมบุกอย่างมาก โหดได้อีก แล้วก็นาที 34 มาได้ประตูแซงขึ้นนำ “กระบี่คู่” 2-1 จากความยอดเยี่ยมของ ฮาคิม ซิเย็ค ปั่นมาเสาไกลให้ เบน ชิลเวลล์ วิ่งมาชาร์ตไม่ถึง 5 หลา โดนต้นขาตนเองเข้าไป เซาธ์แฮมป์ตันจืด

กลุ่มเยี่ยมเกือบจะเสียประตูลำดับที่สาม ข้างหลังบอลชุลมุนหน้ากรอบ ก่อนบอลมาเข้าทาง เบน ชิลเวลล์ ซัดเสาแรกแม้กระนั้นยังไปติดเซฟของ แรมส์เดล

แต่ว่านาที 43 “ดาบคู่” แทบได้ลุ้นตีเสมอบ้างบอลตลอดจากลูกเตะมุม จอร์จ บัลด็อค ผ่านบอลมาให้ จอห์น ลุนด์สแตรม ซัดด้วยซ้ายแม้กระนั้นยังไม่ผ่านมือของ เมนดี้ ที่เซฟไว้ได้

จบครึ่งแรก เชลซี แซงขึ้นนำ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 2-1

ช่วงหลัง 47 “ดาบคู่” แทบมาพลาดเสียประตู ข้างหลัง เอ็นดา สตีเว่นส์ กระแทกบอลคืนหลังไม่ดีโดน มาเตโอ โควาซิช ฉกบอลเข้าไปกำลังจะง้างยิงอยู่แล้ว แต่ว่าโดน คริส บาแชม ตามมาสไลด์จิ้มบอลออกข้างหลังชนิดหวุดหวิด

64 ฮาคิม ซิเย็ค ที่วันนี้เล่นได้โดดเด่นเรียกฟรีคิกหน้ากรอบให้กลุ่มได้ ก่อนที่จะ รีซ เจมส์ จะขอปั่นด้วยขวาบอลพุ่งผ่านกำแพงแม้กระนั้นยังไปติดเซฟของ แอรอน แรมส์เดล

แลมพาร์ด สลับตัวคนแรกส่ง จอร์จินโญ่ ลงไปเล่นแทน มาเตโอ โควาซิช ที่มีความรู้สึกเจ็บ “สิงห์บลูส์” มาได้ฟรีคิกแทบมุมธงทางด้านขวา ฮาคิม ซิเย็ค เปิดโค้งเข้าไปเสาแรกให้ ติอาโก้ ซิลวา กระแทกเช็ดเปลี่ยนทางเสียบเสาไกลเข้าไปให้ เชลซี นำห่าง 3-1 รวมทั้งเป็นประตูแรกของแนวรับชาวบราซิเลี่ยนที่พึ่งจะย้ายมาร่วมทีม

แค่นี้ยังไม่เพียงพอ นาที 81 เจ้าของบ้านมาได้ประตูลำดับที่สี่นำโด่ง ข้างหลังเอ็นโกโล่ ก็องเต้ เข้าไปปั้มบอลกับแข้งดาบคู่ ก่อนบอลปลิ้นทะลุช่องถึง ติโม แวร์เนอร์ หลุดเข้าไปซัดผ่านตัว แอรอน แรมส์เดล เข้าไปให้ เชลซี นำขาด 4-1

จบเกม เชลซี เปิดรังไล่ถล่ม เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 4-1 เก็บชัยชนะนัดที่ 4 ในช่วงฤดูกาลนี้ พร้อมแซงขึ้นไปอยู่อันดับ 3 มี 15 คะแนนพอๆกับ เลสเตอร์ ซิตี้ แต่ว่าลูกได้เสียดีกว่า แต่ทว่าแข่งขันมากกว่าทัพจิ้งจอกอยู่หนึ่งเกม ส่วน “ดาบคู่” ยังจะต้องคอยความมีชัยครั้งแรกถัดไป ข้างหลัง แพ้เป็นเกมที่ 7 หลังลงเล่นมา 8 นัด รั้งอยู่บ๊วยของตาราง